FOOTBAll SPORT ผลงานพองแม้กระนั้นชนะ ! เจาะ 5 ใจความสำคัญ แมนยู บุกเชือดปาร์ติซาน เบลเกรด

f:id:jim1122:20191025164730j:plain

ผลงานพองแม้กระนั้นชนะ ! เจาะ 5 ใจความสำคัญ แมนยู บุกเชือดปาร์ติซาน เบลเกรด

FOOTBAll SPORT โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำกลุ่มบุกเชือด ปาร์ติซาน เบลเกรด ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ปแอล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 เดือนตุลาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาเก็บไปแล้ว 7 คะแนนจาก 3 แมตช์ รั้งชั้นผู้นำฝูงกรุ๊ป
สำหรับแมตช์นี้นับว่าฟอร์มไม่เหมือนกับในช่วงเวลาที่ปะทะ "แดงเดือด" เสมอ หงส์แดง เนื่องจากว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้ไม่ดีนัก รวมทั้งขาดการผลิตสรรค์เกมพอควร โดยประตูโทนก็มาจากจุดลูกโทษของ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล ในตอนครึ่งแรก แล้วต่อจากนั้นกองทัพ "ปีศาจแดง" แทบมิได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากเท่าไรนัก

ส่วนในช่วงหลังเกมดูเหมือนจะเป็นของเจ้าของบ้านเป็นส่วนมาก แล้วก็พวกเขาได้โอกาสได้ประตูบ่อยแม้กระนั้นโชคร้ายที่ขาดความแน่ชัด และก็เฉียบคม แถมยังไม่มีดวงด้วย เพราะเหตุว่ามีถึง 3 จังหวะที่คงจะได้จุดลูกโทษ แต่โดนเมินหน้าจากตุลาการสนาม

1. ระบบเดิมใช้ได้ผล

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงเลือกที่จะใช้ระบบที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ หงส์แดง 1-1 ในเกม "แดงเดือด" เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ผ่านมา มาใช้ในเกมเยี่ยม ปาร์ติซาน เบลเกรด แล้วก็ดูเหมือนจะเห็นผลในครึ่งแรก แม้กระนั้นช่วงหลังผลงานของ "ผีแดง" ออกจะกระพร่องกระแพร่งจวนเจียนเกือบจะโดนตีเสมอบ่อย แทงบอลเว็บไหนดีpantip

"น้าลูกกวาด" จัดกองทัพด้วยการใช้กองหลัง 3 คน โดยจับ อารอน วาน-บิสซาก้า และก็ เบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ขยับขึ้นเป็นวิงแบ็ก แน่ๆว่ากลยุทธ์นี้ทำให้พวกเขามองอดทนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงกระนั้นเมื่อ ปาร์ติซาน จับทางได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนต้นช่วงหลังเมื่อ เซย์ดูบา ซูมาห์ เจอพื้นที่ว่างระหว่างมิดฟิลด์กับกองหลัง ทำให้เจ้าของบ้านแทบจะทำประตูได้

แน่ๆว่าระบบนี้ดูเหมือนจะเวิร์กสำหรับการจัดการ หงส์แดง อย่างไรก็ดี พอล สโคลส์ ตำนาน "ผีแดง" กับแสดงความเห็นอีกมุมหนึ่งว่า ระบบที่ใช้กองหลัง 3 คนภายในการสู้กับ "ลิเวอร์พูล" พอเพียงจะเข้าใจได้ แต่ว่าการเล่นกับกลุ่มที่ชื่อชั้นห่างกันเยอะแยะขนาดนี้จะเล่นแผนแบบงี้ไปเพราะเหตุไร

"ผมรู้สึกประหลาดใจที่ยังมีการใช้เซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คนภายในเกมบอลในช่วงปัจจุบันอีกหรอ ผมมีความคิดว่าในเกมที่เจอกับ หงส์แดง ซึ่งมีแนวรุกเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพถึง 3 คน คุณพอเพียงจะเข้าหัวใจถึงที่กะไว้เล่นแผนอย่างงี้ แม้กระนั้นในคืนวันนี้ (วันพฤหัสบดี) ดูอย่างกับว่าระบบนี้มันออกจะเสียเปล่า" สโคลส์ เจาะจง

แม้กระนั้นภายหลังเกมในช่วงหลังผ่านไปได้พักใหญ่ๆโซลชา ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบกลับมาเล่นกองหลัง 4 คนอีกที พร้อมทั้งใช้ แดเนี่ยล เจมส์ รวมทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เต็มไปด้วยความรวดเร็วเพื่อหวังจะเล่นเกมสวนกลับ แต่ว่าในที่สุดกลุ่มไม่สามารถที่จะเจาะแนวรับปาร์ติซาน ได้

2. แม็คโทมิเนย์ ผลงานไม่แจ่ม

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เป็นนักฟุตบอลที่ โซลชา พร้อมมอบโอกาสอยู่ตลอด โดยในเกมนี้เขาได้รับหน้าที่สำคัญสำหรับการเป็นกองกลางที่มีอิสระสำหรับเพื่อการขึ้นเกมบุก โดยมี เจมส์ การ์เนอร์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ยืนต่ำเป็นสะพานเชื่อมเกมระหว่างแนวรับ กับแผงกองกลางเสมือนที่ "บิ๊กแม็ค" ทำในเกม "เร้ด วอร์" เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

อย่างไรก็แล้วแต่หน้าที่ในเกมนี้ของ แม็คโทมิเนย์ ค่อนข้างจะน่าผิดหวัง หากว่า ดาวเตะกลุ่มชาติสกอตแลนด์ จะมีกำลัง แล้วก็เต็มไปด้วยแรงผลักดัน มาตลอด แม้กระนั้นเขายังขาดหายในเรื่องประสิทธิภาพ รวมทั้งการเล่นในพื้นที่ในที่สุด นี่เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขาที่ยิงได้เพียงแต่ 3 ประตูสำหรับในการเล่นให้กลุ่มชุดใหญ่

แม็คโทมิเนย์ คลาดโอกาสทองในครึ่งแรกเมื่อเขาได้โอกาสที่จะโหม่งบอลจากการเปิดฟรีคิกของ ฆวน มาต้า ในตอนต้นเกม แต่ว่าดันเข้าข้างตาข่าย แต่หนึ่งในสัญลักษณ์ของ ดาวเตะเลือดวิสกี้ ก็คือการยิงไกล แล้วก็แมตช์นี้เขาก็ได้ซัดไกลรอบๆกรอบจุดโทษแต่ว่าโชคร้ายที่ไม่เป็นประตู

ถ้าเกิดไม่รับเรื่องความเฉียบคมสำหรับในการทำประตู จำเป็นต้องกล่าวว่า แม็คโทมิเนย์ ยังคงเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งสำหรับในการเล่นของกลุ่ม กระนั้นถ้าดูจากข้อเท็จจริงสมรรถนะของเขายังไม่สามารถที่จะขจัดปัญหาที่มีอยู่ของกลุ่มได้ในชั่วข้ามคืน รวมทั้งคงจะจำเป็นต้องให้โอกสกันถัดไป

3. ขาดความริเริ่มคิดสร้างสรรค์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงขาดความสร้างสรรค์ในเกมรุก รวมทั้งนี่ยังคงคือปัญหาที่ทำให้ โซลชา จำต้องกุมขมับแน่ๆ

แมตช์นี้ "ผีแดง" ได้ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล กลับมาทำหน้าที่แนวรุก และก็มีชื่อเป็นผู้กระทำประตู เมื่อยิงจุดลูกโทษให้กลุ่มขึ้นในครึ่งแรก ซึ่งงานนี้จะต้องดู วิลเลี่ยมส์ ที่วิ่งทะลุทวงเข้าไปในจุดโทษ ก่อนที่จะโดนแนวรับเจ้าของบ้านสกัดล้มลงในจุดโทษ

ถ้าหากมองตามความมุ่งมั่นหวะดังกล่าวข้างต้นนับว่าเป็นครั้งเดียวเพียงแค่นั้นที่พวกเขาดูเหมือนจะทำประตูได้ ที่น่าหวาดกว่านั้นก็เป็นนี่เป็นครั้งแรกที่ "ปีศาจแดง" ยิงตรงเป้าในเกมยูโรปา ลีก ยาวนานกว่า 2 ชั่วโมงภายหลังที่ทำเป็นแค่เพียงเสมอ อาแซด อัล์คมาร์ 0-0 ในเกมก่อนหน้าที่ผ่านมา นอกนั้นยังเป็นประตูแรกสำหรับเพื่อการเล่นเกมเยี่ยมตั้งแต่แมื่อสิงหาคมจากการแข่งขันชิงชัยทุกรายการ

แม้ว่าจะทำประตูได้แต่ว่า มาร์กซิยาล ยังไม่สามารถที่จะเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้จากการลงเล่นตัวจริงคราวแรกตั้งแต่แมื่อหายเจ็บกลับมา โดยมองได้จากการเสียโอกาสหลายๆครั้งในครึ่งแรก ท้ายที่สุดก็โดนสลับตัวออก แล้วก็ แรชฟอร์ด ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 60

ในช่วงเวลาที่ เจสซี่ ลินการ์ด ยังคงรักษาฟอร์มไม่ดีโดยตลอดจากคงจะกล่าวได้ว่าเป็น "ดาวรุ่งชั่วนิจนิรันดร์" ของแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเขาไม่สามารถที่จะทำประตูหรือทำแอสซิสต์ให้สังกัดเดิม เวลาเดียวกัน ฆวน มาต้า ก็เล่นไม่ออกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ต้องสงสัยเลยว่า โซลชา จำเป็นต้องรีบหาซื้อผู้เล่นตัวรุกคุณภาพดีมาเสริมกองทัพในม.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยประดิษฐ์เกมให้กับกองทัพ "เร้ด เดวิลส์" มากยิ่งกว่านี้

4. แม็กไกวร์ ยังจำเป็นต้องใช้เวลาปรับนิสัยอีกสักระยะ

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้รับจังหวะสวมปลอกใส่แขนกัปตันกลุ่มให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด หนแรก อย่างไรก็ดี ดาวเตะกลุ่มชาติอังกฤษ ยังคงจำต้องพบกับอุปสรรคต่อการแงะฟอร์มเก่งออกมา เพราะเหตุว่าเจ้าตัวจำเป็นต้องแบกรับแรงกดดันในฐานะกองหลังที่ค่าจ้างแพงสุดในโลก

ในเกมนี้ แม็กไกวร์ ได้พบกับบททดลองสำคัญจาก อูมาร์ ซาดิค และก็งานนี้ เซนเตอร์แบ็กเลือดผู้ดี ค่อนจะอึดอัดสำหรับการสู้กับแนวรุกชาวไนจีเรียรายนี้ ด้วยเหตุนั้นการที่ โซลชา แปลงผู้เล่นแนวรับมิได้ช่วยทำให้ แม็กไกวร์ ทำผลงานดียิ่งขึ้นเลยทั้งยังในด้านฟอร์มการเล่นส่วนตัว แล้วก็ระบบกลุ่ม

สามแนวรับในเกมที่กรุงเบลเกรดมี ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ รวมทั้ง แม็กไกวร์ แทบเล่นไม่เข้ากันเลย โดยยิ่งไปกว่านั้นในช่วงหลังจะเห็นได้ชัดว่าเกมรุกของปาร์ติซาน สามารถบุกเข้ามาป่วนปั่นเกมรับของ "ปีศาจแดง" ได้โดยตลอดกระทั่งกลุ่มเป๋ไปเป๋มา

จะต้องสารภาพว่า แม็กไกวร์ ค่อนจะประสบพบเจอปัญหาพอควรสำหรับเพื่อการต่อกรกับความเร็ว แล้วก็เคล็ดลับเฉพาะบุคคลของ ดาวเตะวัย 22 ปี แม้กระนั้นอย่างต่ำๆประสบการณ์บนเวทีระดับกลุ่มชาติ และก็ในพรีเมียร์ลีก ทำให้เขาสามารถเอาชีวิตรอดได้ในเวลาที่ถูกกดดัน

5. ปาร์ติซาน โชคร้าย

ถ้าหากจะกล่าวว่าเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโชคก็จัดว่าไม่ผิด แต่ว่าสำหรับ ปาร์ติซาน จำต้องบอกเลยว่าโคตรโชคร้ายสุด เพราะเหตุว่าพวกเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งยังในครึ่งแรก แม้กระนั้นโชคร้ายที่โดนทำประตูขึ้นนำจากลูกจุดลูกโทษของ มาร์กซิยาล แค่นั้น

เวลาที่ช่วงหลัง สามารถบอกได้เต็มปากว่าเจ้าของบ้านสร้างจังหวะป่วนปั่นเกมรับของ แชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษ 20 ยุค จนถึงล้มรุกคุกคลาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่พวกเขาคงจะได้จุดลูกโทษซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่ว่าต้องเป็น 3 จุดลูกโทษด้วย กลับโดน ซาเบียร์ เอสตราด้า เฟร์นานเดซ ผู้ตัดสินชาวสแปนิช ไม่ยอมรับเรียบวุธ

ถ้าเกิดเอาแบบเห็นจะๆก็ควรเป็นจังหวะของ แม็คโทมิเนย์ แล้วก็ วิลเลี่ยมส์ ที่ไม่ทำให้กลุ่มจำต้องเสียจุดลูกโทษ เพราะเหตุว่าผู้ตัดสินอีกทั้งในรวมทั้งนอกสนามดูในทางเดียวกันว่าเป็นการแฮนด์บอลแบบมิได้มีเจตนา ก็นับได้ว่าเป็นโชคร้ายของ ปาร์ติซาน และก็แฟนบอลของพวกเขาจริงๆ

ทดลองคิดเล่นๆถ้า 3 จังหวะดังที่กล่าวมาข้างต้นท่านเปาเป่านกหวีดให้เป็นจุดลูกโทษ งานนี้ผลของการแข่งขันบางทีอาจจะออกมาต่างจากนี้