แชมป์เก่าเริ่มพังทลาย! 5 ข้อความสำคัญร้อนหงส์แดงโดนนาโปลีย้ำโกรธแค้น

 

f:id:jim1122:20190918165926j:plain

แชมป์เก่าเริ่มพังทลาย! 5 ข้อความสำคัญร้อนหงส์แดงโดนนาโปลีย้ำโกรธแค้น

หงส์แดง ประเดิมคุ้มครองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่น่าอภิรมย์เมื่อออกไปเยี่ยม นาโปลี กับแพ้สบายด้วยสกอร์ 0-2 ที่สนามซาน เปาโล รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป อี เมื่อวันอังคารที่ 17 ก.ย.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาจำต้องเจ็บช้ำระกำหัวใจในเมืองเนเปิ้ลส์ สองปีต่อเนื่องกัน
เกมนี้ "ลิเวอร์พูล" กับ "อัซซูร่า" โชว์ความสามารถสำหรับการเล่นเกมบุก แล้วก็จังหวะสวนกลับอย่างบ้า ก่อนที่จะ หงส์แดง จะเสียท่าจากการเล่นเปิดเผยของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กระทั่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเสียจุดลูกโทษ แล้วก็ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ จัดแจงจ่ายบอลเข้าซุกก้นตาข่าย ระหว่างที่ในตอนทดเจ็บความไม่รู้เรื่องกันระหว่าง โรเบิร์ตสัน กับ อาเดรียน ที่ต่างเกรงอกเกรงใจกัน ในที่สุดก็โดน แฟร์นานโด้ ยอเรนเต้ จัดแจงซัดเข้าไปไม่เหลือซาก

สำหรับแมตช์นี้ดูอย่างกับว่าเกมรุกของ "เดอะ เร้ดส์" เล่นไม่ค่อยเข้าฝัก และก็เมื่อได้โอกาสที่จะทำคะแนนก็ดูราวกับว่ายังขาดๆเกินๆแต่ว่าที่น่าประทับใจสำหรับหงส์แดง ก็คือ อาเดรียน ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟหลายที ขั้นต่ำๆก็ทำให้ "เดอะ ค็อป" อุ่นใจได้บ้างในยามที่รอ อลีสซง เบ็คเกอร์ กลับมา แทงไฮโลออนไลน์

ระหว่างที่นักฟุตบอลที่เด่นที่สุดก็คือ คาลิดู คูลิบาลี่ เซนเตอร์แบ็ก นาโปลี ที่จัดแจงเกมรุกของ "ลิเวอร์พูล" อยู่มือ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี่เป็นบทเรียนสำคัญของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวด๊อยท์ช ที่จะจะต้องรีบหาทางปรับแต่งประเด็นนี้ เมื่อกลุ่มจำต้องพบกองหลังเข้มแข็ง ควรแก้เกมอย่างไร รวมทั้งใช้ผู้ใดกันลงมาปั่นป่วน !!!

1. อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดน อินซินเย่ ทดลอง
อย่างที่รู้ๆกันดีอยู่แล้วว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ชอบมีปัญหาประเด็นการเล่นเกมรับ และก็วันนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาควรต้องพบกับตอนกลางคืนที่สุดหินในเมืองเนเปิ้ลส์ เมื่อจำเป็นต้องประจันหน้ากับกองหน้าแนวทางดี แถมยังมีความเร็วสูงอย่าง ลอเรนโซ่ อินซินเย่

จะว่าไปแล้ว "เจ้าหนูเทรนต์" ก็มิได้เล่นบกพร่องอะไรมากสักเท่าไรนัก เนื่องจากถ้าแนวรับคนไหนกันจะต้องมาปะทะกับ อินซินเย่ ที่เต็มไปด้วยแนวทางพราวแพรว แล้วก็เร็วราวกับจรวด โดยตลอด 66 นาทีที่เขาอยู่ในสนาม เล่นเอา แบ็กขวาผู้ดีอังกฤษ จำต้องเปิดตำราเรียนตั้งรับแทบจะไม่ทัน

แม้กระนั้น ดาวเตะเชื้อสาย "เดอะ ค็อป" พันธุ์แท้ ได้อะไรมากยิ่งกว่าจากแมตช์นี้ ครั้งคราวนี่บางครั้งก็อาจจะเป็นเยี่ยมสำหรับเพื่อการเล่นเกมรับที่ดียอดของเขาสำหรับในการเล่นให้กับกลุ่มชุดใหญ่ โดยตลอดอีกทั้งเกม อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รอวิ่งช่วยเหลือ โฌเอล มาติป สำหรับในการเล่นเกมรับ แม้กระนั้นเมื่อได้โอกาสเจ้าตัวก็จะวิ่งไปช่วยเกมบุกตลอด

โดยเหตุนี้ผลงานของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บางทีก็อาจจะมองทื่อๆไปบ้างเนื่องด้วยไม่อาจจะเล่นในเกมที่ตนเองถนัด แม้กระนั้นการช่วยเกมรับให้กับกลุ่มนับว่าเป็นสิ่งที่เจ้าตัวปรับปรุงขึ้น แต่ว่าโชคร้ายทีเด็ดจากการเปิดบอลขอบเส้นของเขาไม่มีให้มองเห็นในเกมนี้เลย

2. โรเบิร์ตสัน ฟอร์มหลุด
เกมนี้จะต้องสารภาพว่าฟูลแบ็กสองฝั่งที่ถือได้ว่าทีเด็ดของ หงส์แดง เงียบสนิท น้อยมากที่จะขึ้นไปสร้างความหวาดเสียว หรือมีจังหวะการเปิดบอลทีเด็ดครั้งขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จำเป็นต้องสารภาพว่าเกมนี้ไม่ใช่วันของเขาจริงๆ

กัปตันกลุ่มชาติสกอตแลนด์ จำเป็นต้องต่อกรกับแนวรุกสายสปีดของเจ้าของบ้านอย่างมาก โดยในตอนครึ่งแรกเขาแทบจะมิได้ได้โอกาสดันเกมขึ้นไปช่วยเกมรุกมากเท่าไรนัก ด้วยเหตุว่าจำต้องกังวลการเล่นสวนกับของนาโปลี ที่มีนักเตะความเร็วสูงอย่าง อินซินเย่, ดรีส์ เมอร์เท่นส์ รวมทั้ง โฆเซ่ กาเยฆอน ที่รอวิ่งสลับเปลี่ยนป่วนปั่นแบ็กซ้ายขวาของ "ลิเวอร์พูล" ตลอด


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลัง โรเบิร์ตสัน ทำผิดพลาดมหันต์เมื่อไม่สามารถที่จะจัดแจงกับความเร็วของ กาเยฆอน ได้แถมเหมือนกับจังหวะการเข้าสกัดโฉ่งฉางนำมาซึ่งการทำให้กลุ่มจำเป็นต้องเสียจุดลูกโทษ ยังไม่หมดเท่านั้นด้วยเหตุว่าช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บ "แอนดี้" ดันติดต่อกับ อาเดรียน ไม่ดีทำให้เกิดจังหวะลูกเกรงอกเกรงใจ และก็แปลงเป็นหายนะเมื่อ แฟร์นานโด้ ยอเรนเต้ ได้ช่องยิงตอกฝาโลงศพสบายอุรา

แน่ๆว่านักบอลทุกคนได้โอกาสที่จะฟอร์มตกกันไปบ้าง ดังนั้นสิ่งที่ โรเบิร์ตสัน จำเป็นต้องรีบปรับปรุงก็คือการเรียกความเชื่อมั่นและมั่นใจกลับมาโดยเร็ว เนื่องจากแมตช์ถัดไป "ลิเวอร์พูล" มีแมตช์สำคัญปะทะ "สิงโตสีน้ำเงินคราม" เชลซี เกมพรีเมียร์ลีก ตอนอาทิตย์นี้

3. คูลิบาลี แกร่งทั่วแผ่นสมคำร่ำลือ
ถ้าหากว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เอ๊ย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นกองข้างหลังที่เก่งที่สุดในโลก ถ้าอย่างนั้น คาลิดู คูลิบาลี่ จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ เนื่องจากว่าวันนี้เจ้าตัวแสดงให้โลกได้มองเห็นแล้วว่าเซนเตอร์แบ็กที่เข้มแข็งจะต้องเป็นคนใด !!??

ป้อมปราการข้างหลังชาวเซเนกัล ยืนปักหลักในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กทางด้านซ้าย แล้วก็เขาก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังมีความเร็วและก็การอ่านเกมที่เด็ดขาดอีกต่างหาก แน่ๆว่าฟอร์มอย่างงี้ย่อมทำให้มิดฟิลด์ รวมทั้งแผงแนวรุกกล้าเสี่ยงขึ้นไปบีบคั้นกองหลัง "ลิเวอร์พูล" เนื่องจากพวกเขาวางใจได้ว่า คูลิบาลี สามารถรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้

ทุกๆสายตาคงเห็นกระจ่างเจนว่าเมื่อไรที่คู่ปรปักษ์พากเพียรจะวิ่งฉีกหนี คูลิบาลี เขาจะเปล่งรัศมีจัดแจงกับคู่ประมือโดยทันที แน่ๆว่าหน้าแข้ง "เดอะ เร้ดส์" รู้ดีว่า กองหลังกลุ่มชาติเซเนกัล แกร่ง รวมทั้งยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้ ซึ่งก็เป็นแบบงั้นจริงๆเพราะว่าทั้งยัง ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ รวมทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไม่สามารถที่จะจัดแจงกับ คูลิบาลี ในจังหวะแบบดวลกันตัวต่อตัว

ยิ่งกว่านั้น แนวรับวัย 28 ปี ยังค่อยช่วยเป็นตัวเกื้อหนุนให้กับ มาริโอ รุย ด้านแบ็กซ้าย ครั้งใดก็ตามโดน "คิง ออฟ อียิปต์" ใช้ความเร็วแล้วก็เคล็ดวิธีเข้ามาจู่โจมทางฝั่งนี้ แม้ว่าจะผ่าน รุย มาได้ แต่ว่า คูลิบาลี ก็ยังสามารถจัดแจงกวาดไม่ให้ ซาลาห์ เข้าไปสร้างความอันตรายในจุดโทษได้

โดยเหตุนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ คูลิบาลี จะได้รับเลือกเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้

4. อาเดรียน โชว์ให้มีความเห็นว่าคู่ควรมือ 1
อาเดรียน ทำผลงานได้ดีเยี่ยมอีกรอบในเกมนี้ รวมทั้งทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกอุ่นใจเพราะเหตุว่าในยามที่ "ลิเวอร์พูล" จำเป็นต้องขาด อลีสซง เบ็คเกอร์ พวกเขายังมี โกลมากประสบการณ์ชาวสแปนิช ที่ยังพึ่งพาอาศัยได้ และก็สิ่งนี้ชี้ให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งในเกมกับ นาโปลี

ก่อนหน้าที่ผ่านมา อาเดรียน ก็เคยเป็นวีรบุรุษช่วยทำให้กลุ่มครอบครองแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ มาครอง แต่ว่าในเกมที่สนามซาน เปาโล เจ้าตัวได้ยกฐานะผลงานขึ้นไปอีกขึ้น งานนี้แฟนบอล "เดอะ เร้ดส์" บางครั้งอาจจะหายนึกถึง นายทวารชาวบราซิเลียน ผู้ครอบครองค่าจ้าง 67 ล้านปอนด์ (ราว 2,546 ล้านบาท) ไปได้บ้าง

ครึ่งแรก อาเดรียน โชว์ความยอดเยี่ยมด้วยการโชว์ดับเบิลเซฟจากการตะบันเต็มข้อไม่ขอคืนดีแฟนของ ฟาเบียน รูอิซ ในช่วงเวลาที่ในช่วงหลัง มาริโอ รุย เปิดบอลให้ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ วิ่งมาอัดด้วยขวาในกรอบ 6 หลา แต่ว่า นายด่านเลือดวัวกระทิงมอง โชว์ความเหนียวหนึบปัดบอลได้น่าตาเฉย

แน่ๆว่าการเสีย 2 ประตูถือได้ว่าเรื่องสุดวิสัยจริงๆสำหรับ อาเดรียน แต่ว่าถ้าเกิดมองดูจากช่องทางที่ นาโปลี มีสิทธิ์จ่ายบอลซุกก้นตาข่าย จำต้องเห็นด้วยว่าเขามีส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มไม่เสียประตูไปๆมาๆกกว่านี้ เพราะว่าอย่าลืมว่าการเล่นในรอบแบ่งกลุ่มผลต่างประตูได้เสียมีสิทธิ์ชี้ชะตาอนาคตได้อย่างยิ่งจริงๆ

5. 3 ผสานเงียบเชียบ
แนวรับคู่ปรปักษ์ทุกครั้งมคงจะได้ขาสั่นเมื่อได้ยินว่า มาเน่, ซาลาห์ และก็ ฟีร์มีโน่ ลงไปในสนาม ด้วยเหตุว่าทั้งยังสามคนสามารถทำลายกองหลังได้ทุกครั้งมในโลกใบนี้ แม้กระนั้นเหตุดังที่กล่าวผ่านมาแล้วไม่เกิดขึ้นกับการไปเยี่ยม นาโปลี เนื่องจากว่าสามผสาน "หินเหล็กไฟ" เล่นกันไม่ค่อยเข้ากันเลย

อย่างในกรณีของ ฟีร์มีโน่ หลายท่านรู้สึกผิดหวังเมื่อฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในแมตช์ถลุง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไม่มีให้มองเห็นสำหรับการเยี่ยมเมืองเนเปิ้ลส์ บางครั้งบางคราว "บ็อบบี้" ยังดูเหมือนกับว่าครอบครองบอลนานเกินความจำเป็นทำให้กลุ่มเสียจังหวะ หรือบางจังหวะคงจะทำประตูแม้กระนั้นดันใจดีสวมบท "พี่มีแต่ว่าให้" จ่ายบอลให้ ซาลาห์ กับ มาเน่ จนถึงพลาดทำแต้มอย่างโชคร้าย

ขณะเดียวกับ ซาลาห์ ก็จำต้องมาพบกับความยากแค้นสำหรับเพื่อการดวลกับ คูลิบาลี ส่วน มาเน่ จะต้องกล่าวว่าเกมนี้การจับบอลไม่ค่อยเชื่องเท้า ทำให้เกมเสียจังหวะ ส่วนการติดต่อประสานงานระหว่างทั้งสองยิ่งน่าผิดหวังโดยยิ่งไปกว่านั้นในช่วงหลังที่มีจังหวะสวนกลับ แต่ว่า มาเน่ ดันจ่ายบอลแรงทำให้ "โม ซาลาห์" คลาดโอกาสทองคำ

ธรรมดาแล้ว 3 ผสาน "เอสเอ็มเอฟ" ชอบสร้างความต่างให้กับกลุ่มได้ตลอดระยะเวลา แม้กระนั้นในแมตช์เยี่ยม นาโปลี จะต้องสารภาพว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะทำเรื่องที่สาวก "เดอะ ค็อป" มองเห็นอยู่เป็นประจำได้เลย ด้วยเหตุนั้นเมื่อใดที่ "เน่-ลาร์-โน่" ฟอร์มฝืด เจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องมีแผนสำรองโดยทันที มิเช่นนั้นผลที่เกิดจากการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างนี้a